สวัสดีไดอะรี
ว่าจะไม่หายไปนานๆ เผลอๆ ก็ผ่านไปเดือนนึงละ แย่จริงๆ เลยเรา
ไปเที่ยวฮาโกดาเตะครั้งนี้ ไม่ได้วางแผนอะไรเลย ตั๋วเครื่องบินก็ใช้ไมล์แลกเอา เที่ยวแบบชิวๆ อยากตื่นกี่โมงก็ตื่น ตื่นแล้วก็ค่อยคิดว่าจะทำอะไร จริงๆ เมืองมันเล็กๆ นะ ไม่มีอะไรให้ทำเท่าไหร่หรอก
February 12th-15th, 2016
วันแรก
ออกจากฮาเนดะห้าโมงเย็น กว่าจะถึงฮาโกดาเตะก็ค่ำแล้ว นั่งบัสเข้าเมืองใช้เวลาไม่ถึง 30 นาที รถจอดที่หน้าโรงแรมเลย คืนแรก เราพักที่ Hakodate Kokusai Hotel ที่เลือกโรงแรมนี้เพราะว่าอาหารเช้าอร่อย เค้าว่าติด 1 ในห้า โรงแรมที่อาหารเช้าอร่อยที่สุดในญี่ปุ่นเลยทีเดียว

ห้องเล็กมากกกกกกก เท่าแมวดิ้นตาย แต่ก็สะอาดและใหม่ดี
มื้อแรกจัดไปง่ายๆ ที่ร้านดัง Lucky Pierrot ร้านนี้คนที่ทำงานแนะนำ ชูก็แนะนำ เอาเข้าจริงก็จังค์ฟู้ดธรรมดา ฮา…


ปิดท้ายวันที่ Hakodate Beer Hall โอ้ย ฟิน
ขอบอกว่าเบียร์ที่นี่รสชาตดีพอๆ กับเบียร์ที่เยอรมันเลยนะ ไม่ขมเลยสักนิด แต่แพงจ๊ะ ที่ขายในร้านขวดเล็ก 500 เยนแน่ะ ถ้าคิดว่าปกติเบียร์ญี่ปุ่นขายกระป๋องละ 200 เยน แพงเท่าตัวเลยอ่ะ



อากาศไม่หนาวเท่าไหร่ หิมะก็ไม่ตกมานานแล้ว ตรงทางเดินส่วนใหญ่หิมะกลายเป็นน้ำแข็งแล้ว เดินยากมาก จะหน้าคมำก็หลายครั้ง
เทรุถามว่า ไม่ตื่นเต้นกับหิมะแล้วเหรอ คือ ถ้ามันตกลงมาจากฟ้าก็ตื่นเต้นอยู่หรอกนะ แต่แบบที่สกปรกๆ บนพื้นเนี่ย ไม่ไหว ไม่ตื่นเต้นจ๊ะ
วันที่สอง
เริ่มต้นวันด้วยอาหารเช้า แซลมอน อิคุระ หมึกสดๆ กินจนพุงกาง
เนี่ย เอารูปมาให้ดูประกอบ



อิ่มแล้ว ก็เตรียมตัวเช็คเอ้าท์ คืนนี้ รร นี้เต็มจ๊ะ เราต้องย้ายไปพักอีกที่นึงใกล้ๆ กับสถานีฮาโกดาเตะ
เช็คเอ้าท์ฝากกระเป่าไว้ก่อน ไปเดินเล่นแถวๆ bay area ละแวกนี้ก็คล้ายๆ ที่โยโกฮาม่านะ มีตึก warehouse สมัยก่อนที่ทำด้วยอิฐแดงๆ ที่เอามาปรับปรุงใหม่เป็นร้านค้า แลดูวินเทจดี








บังเอิญตรงกับช่วงตรุษจีนพอดี คนจีนเยอะมาก ไปไหนก็มีแค่คนจีน โอ้ มายก้อด อย่างกับไชน่าทาวน์ ก่อนมาเทรุดูข่าวแล้วเล่าให้ฟังว่า ตรุษจีนปีนี้ คนจีนไปเที่ยวไทยเยอะสุด รองลงมาก็ญี่ปุ่นนี่แหละ มิน่าล่ะ
แวะไปร้านชีสเค้กร้านดังของฮาโกดาเตะมาก เค้กนี้อร่อยจริงๆ นะ แต่ราคาก็ไม่เบาเหมือนกัน ปกติที่โตเกียวเราก็ซื้อกินอยู่บ่อยๆ เวลามีงาน hokkaido fair ตามห้าง วันนี้มาถึงถิ่นละ ไม่ได้สิ ต้องแวะมา


ส่วนร้านนี้… Lucky Pierrot ร้านดังของเมืองนี้ มีหลายสาขาทีเดียว ราคาถูกและ(เขาว่า) อร่อย


เมืองนี้มีส่วนคล้ายโกเบหลายอย่าง ตรงที่เป็นเมืองท่าเหมือนกัน เมืองท่านี่จะมีบ้านฝรั่งเยอะ ที่โกเบมีโมโตมาจิ (เมื่อเก่า) ที่ฮาโกดาเตะก็มี แล้วก็จะมีบ้านฝรั่งที่เค้าอนุรักษ์ไว้ด้วย สามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้
ใหม่ดูมาเยอะแล้วล่ะที่โกเบ ก็เลยเฉยๆ


ป่ะ ไปตกหมึกกันเถอะ ไม่มีอะไรทำละ
ที่ฮาโกดาเตะจะขึ้นชื่อมากเรื่องหมึกสดๆ ตุลาที่แล้วที่ใหม่ไป Tsushima มา (ไดอะรีหน้านี้) ก็เคยได้กินหมึกสดๆ มาแล้ว สดขนาดที่หนวดมันยังดิ้นอยู่เลยอ่ะ
แต่ที่มีให้ตกหมึกเองด้วย เอ้า เอาเข้าไป
ใหม่ไม่มีฝีมือ ให้เทรุจัดการไป รอถ่ายรูป กะรอกิน อย่างเดียว



เวลาตกหมึก เค้าให้เล็งหางมัน ถ้าเล็งหนวดมัน พอติดเบ็ด หมึกมันจะฉีดน้ำจนเราเปียกเลยล่ะ คนที่อยู่แถวนั้นซวยไปตามๆ กันเลย 55+
ใหม่นะ เตรียมกล้อง ยังไม่ทันจะได้เล็ง เทรุจับได้แล้ว คนก่อนหน้าเรา พยายามอยู่เกือบ 10 นาที เออ เทรุเก่งอ่ะ



ไปไหนกันต่อดี เริ่มเหนื่อยละ เดินไม่ไกลหรอก แต่เดินย๊าก ยาก
เทรุชวนไปเดินตลาดปลาอีกที่นึงที่นักท่องเที่ยวไม่ค่อยไป (์Nagajima Rembai) นั่งแทรมไปแป๊บเดียว ไปก็ไป ไม่มีอะไรทำแล้วหนิ


วันนี้ดูอย่างเดียว ไม่ซื้ออะไร กะว่าวันกลับค่อยแวะมาซื้อแซลมอน (ปรากฏเค้าหยุดวันอาทิตย์ อดเลย)
ดูพยากรณ์อากาศแล้ว เห็นว่าพรุ่งนี้กะมะรืนฝนจะตก ก็เลยตกลงกันว่า วันนี้จะไปดูวิวที่ mt. Hakodate กัน อาจจะพอรู้กันว่า เมืองนี้เป็นเมืองที่มีวิวกลางคืนสวยติดหนึ่งในสามของญี่ปุ่น อีกสองที่คือโกเบ และนากาซากิ ถ้าใหม่จำไม่ผิดนะ
มาแล้วไม่ได้ดูวิว เหมือนมาไม่ถึง

เรารีบไปกันแต่หัวค่ำหน่อยจะได้ไปจับจองที่ก่อนพระอาทิตย์ตก ขอบอกว่ามันเป็นความคิดที่ผิดมาก เพราะทุกคนคิดเหมือนกันหมดเลย ฮา… คนก็เลยเยอะมากกกกกกก ถึงมากที่สุด ใหม่ว่ามาสักทุ่มครึ่งจะดีที่สุดนะ ช่วงนั้นคนส่วนใหญ่จะทยอยลงเขากันแล้ว ถ้าจะไปนั่งชิวในร้านอาหารก็มีที่นั่งติดหน้าต่างว่าง (มาก่อนมืด โต๊ะติดจองหมด)
ไหนๆ ก็มาละ กินข้าวกันเลยละกันเนาะ





ถ่ายรูปอยู่ข้างในมันไม่ได้มุมที่ต้องการ ก็เลยเช็คบิล แล้วออกไปดูกันข้างนอก
ลมแรงมากกกกก หัวเหอไปหมด คนจีนก็เยอะ (ไม่ต้องบอกนะว่าวุ่นวายขนาดไหน) รอเป็นชั่วโมง สรุปดูวิวไม่ถึงห้านาที ฮ่าฮ่า อยู่นานกว่านี้ไม่ได้ ต้องไปก่อนจะหงุดหงิด



ขาลงก็รอนานมากกว่าจะได้ขึ้นกระเช้า คนเยอะมากกกกกก ถึงมากที่สุด จนเราต้องเข้าไปรอในร้านอาหารอีกรอบนึง สั่งเครื่องดื่มมาจิบรอเวลา พอคนเริ่มซาค่อยไปเข้าแถว
จบวันไปแบบงงๆ วันนี้
วันที่สาม
ไปเดินตลาดปลากันแต่เช้าวันนี้

เป้าหมายของเราวันนี้ คือไปกินอุนิด้งที่ร้าน มุราคามิ เทรุโทรไปจองไว้ตั้งแต่เมื่อคืนละ แนะนำกันมาหลายทางมาก ทั้งไกด์บุค ฟร้อนท์โรงแรม ในเน็ต ฯลฯ
ไม่ได้การละ แพงหน่อย ก็ต้องยอมลงทุน
โชคดีนะที่ใหม่กินได้ทุกอย่าง ของดิบก็กินได้ไม่มีปัญหา ไปไหนก็ไม่ลำบาก ยิ่งเมืองนี้อาหารดังคือซาชิมิด้วย (ก็ติดทะเลนี่นะ)







โอ้ย ฟินนนนนน กินตลอดทริปจริงๆ ทริปนี้ ฮา….
บ่ายเราไปเที่ยว Goryokaku ไม่มีอะไรเล้ยยยย มีแต่หิมะ
วันนี้ฝนตก สลับกับมีเมฆครึ้มเป็นระยะๆ
ว่าเมื่อวานเดินยากแล้ว วันนี้อัพเลเว่ลความยากขึ้นไปอีก 10 เท่า ลื่นมากกกกกกกก ถึงมากที่สุด ระยะทางแค่ 750 เมตร เดินเกือบครึ่งชั่วโมง ตรงที่มีกรวดโรยก็เดินง่ายหน่อย ตรงที่ไม่มีก็ต้องใช้สกิลการทรงตัวขั้นเทพของแต่ละคนเอาเอง
แวะห้างแถวๆ นั้น ได้ปูขนมาสองตัว กับซูชิอีกกล่อง เป็นอาหารเย็นวันนี้



ปิดท้ายวันนี้ด้วยอิซะกายะแถวๆ โรงแรม




สรุปว่า เมาหัวทิ่มจ๊ะ 55+
วันสุดท้าย
หนาวๆ ร้อนๆ ตั้งแต่เช้า เพราะอากาศไม่ค่อยดี ลมแรง เที่ยวบินโดนแคนเซิลไปหลายเที่ยวตั้งแต่เมื่อวาน พรุ่งนี้ (15 กพ) ใหม่ต้องไปทำงานที่ไทย ถ้าวันนี้ไม่ได้กลับคืองานเข้าแน่นอน ก็ได้แต่ภาวนาให้อากาศเปลี่ยน จะได้กลับบ้านกัน
พยากรณ์อากาศญี่ปุ่น ไม่เคยพลาด วันนี้ก็เช่นกัน ฝนเทลงมาแต่เช้า หนาวจับจิต

เดือนมีนาคมนี้ รถไฟชินคันเซ็นเชื่อมอาโอโมริ-ฮาโกดาเตะ จะเปิดเส้นทาง เชื่อมเกาะฮอนชูกับฮาโกดาเตะเข้าด้วยกัน ก่อนหน้านี้การเดินทางไปฮอกไกโดจะมีแค่ทางเครื่องบินกับเรือเท่านั้น ตอนนี้เค้าก็เร่งสร้างสถานีฮาโกดาเตะให้เสร็จทันชินคันเซ็นอยู่
ตั๋วคงแพงน่าดูเลย แต่คนญี่ปุ่นชอบรถไฟ แพงขนาดไหนก็คงซื้อกันเหมือนเดิมนั่นแหละ
มื้อเช้าวันนี้ที่ตลาดเช้า


บ่ายวันนี้ เราไปเดินเล่นที่ Motomchi กัน เดินขึ้นเนินไม่เท่าไหร่ ตอนลงเนินนี่สิ เอารองเท้าสเก็ตให้เลยน่าจะเหมาะกว่า (และแล้วเทรุก็ล้มจนได้)
ช่วงซัมเมอร์น่าจะสวยนะที่นี่ หน้าหนาวเปียกเฉอะแฉะไปหมด
เป้าหมายของเรา คือคาเฟ่เล็กๆ ชื่อ Kikuizumi




ก่อนกลับ ไม่มีอะไรทำ ก็เลยไปแช่ออนเซ็นกันอีกรอบ
ขอบอกว่า คนที่นี่เค้าฮาร์ดคอร์กันมาก ปกติที่โตเกียว น้ำจะร้อนประมาณนึง 40 องศาประมาณนั้น ที่นี่ ไปซะ 43 องศาเลยค่ะ ร้อนแทบจะลวกคนสุก
แล้วบ่อน้ำเย็นน้ำก็โคดเย็นสมชื่อเลย (คือ เค้าจะแช่น้ำร้อนแล้วมา cool down ที่บ่อน้ำเย็น ทำแบบนั้นเป็นปกติ ไม่งั้นจะ overheat) ลงไปแค่สองวิ ขึ้นมานี่ปวดไปทั้งตัวเลยอ่ะ รู้สึกเหมือนจะตาย ไม่เคยเจอน้ำที่ไหนเย็นขนาดนี้มาก่อนเลย เทรุบอกว่า คนที่นี่เค้าก็คงคิดว่านี่คือเย็นปกติ เราอ่ะแหละที่ไม่ชินเอง ^^”


โอ้ย เขียนยาวมาก เหนื่อยแล้ว จบดื้อๆ แบบนี้เลยละกัน
ปล. สรุปไฟล์ทไม่แคนเซิลนะจ๊ะ ดีเลย์นิดหน่อย