สวัสดีไดอะรี
ปกติแล้วเวลาพูดถึงซากุระ ทุกคนก็จะนึกถึง Somei-Yoshino ที่บานปลายเดือนมีนา แต่จริงๆ แล้วซากุระมีหลายพันธุ์นะ มีพันธุ์ที่บานเร็ว เช่น Kawazu Sakura นี้ ที่บานตั้งแต่ยังไม่หมดหน้าหนาว แล้วก็มีพันธุ์ที่บานช้า เช่นพันธุ์ที่เคยไปดูที่ Hiei san ที่เกียวโต ที่โรงกษาปณ์โอซาก้า ที่บานปลายๆ เมษาเลย
วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ชวนเทรุไปดูซากุระที่ Miura Kaigan พ่อกับแม่จะมาอาทิตย์หน้า ใหม่เลยอยากไปดูลาดเลาไว้ก่อนว่ามันน่าไปมั้ย
ซากุระพันธุ์นี้เป็นพันธุ์เดียวกันกับที่ Izu ที่ใหม่เคยไปดูกับเมกุมิเมื่อสองปีที่แล้ว

เรียกว่า Kawazu sakura ตามชื่อเมือง ดอกจะชมพูเข้มกว่าพันธุ์โซเมะโยชิโนะ กลีบดอกจะมีหลายชั้น เพราะอย่างงี้รึเปล่าก็เลยบานนาน เกือบเดือนแน่ะ Sakura festival ที่ Kawazu ก็จัดกันเป็นเดือนเลย
ใหม่ก็เพิ่งรู้นี่แหละว่า มีซากุระพันธุ์นี้ที่คานากาวะ ใกล้ๆ บ้านเรานี่ด้วย (ก็ใกล้กว่า Izu ล่ะนะ) และเค้าก็มีจัดงานด้วย ถึงจะเล็กกว่าที่ Izu ก็เถอะ


พอดีมีน้องที่ทำงานเค้าไปถ่ายรูปมา มันก็สวยดีเนอะ เผื่อพ่อแม่มามันจะยังไม่ร่วง ก็จะได้พาไปดู งานมีถึงวันที่ 13 มีนาแน่ะ
จากบ้านเรา นั่งรถไฟไปลงที่ Shinagawa จากนั้นก็นั่งรถ Keikyu ไปเกือบสุดสาย ลงที่สถานี Miura Kaigan (三浦海岸駅) ใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงเศษๆ

จุดชมซากุระอยู่อีกที่นึง ไม่รู้ทางหรอก มาถึงแล้วก็เดินๆ ตามเค้าไป ไกลพอสมควรเลยทีเดียว (พ่อจะเดินไหวมั้ย อันนี้ยังสงสัยอยู่) ซากุระเยอะเหมือนกัน ปลูกอยู่ริมถนนเป็นทางเลย
เห็นในรูปมีรถไฟด้วย แต่ใหม่ก็ไม่รู้ว่าเขาไปถ่ายที่จุดไหน เพราะหาจุดที่ถ่ายแล้วเห็นรถไฟไม่เจอเลย คงต้องถ่ายจากสะพานไหนสะพานนึง แล้วซูมเอา




พอเดินไปถึงตรงสระน้ำ ที่เป็นไฮไลท์ในโปสเตอร์ ปรากฏว่าซากุระเริ่มโรยแล้วล่ะ ถ่ายรูปออกมาไม่สวยเท่าไหร่ ก็เลยไม่ได้ถ่าย เดินดูแป๊บเดียวแล้วก็เดินกลับ
เทรุไม่ค่อยถูกโรคกับที่ๆ คนเยอะๆ แบบนี้ จริงๆ ใหม่ก็ไม่ชอบนะ แต่ก็ทนได้มากกว่าเทรุอยู่

เนี่ย เมื่อวานอ่านข่าวที่ว่า ชาวสวนที่ฮอกไกโด ตัดต้นไม้ Tree of philosophy เพราะรำคาญนักท่องเที่ยวที่ไม่ค่อยมีมารยาท (อารมณ์ประมาณคนอัมพวาตัดต้นลำพูนั่นแหละ)
ในข่าวเห็นพูดชัดเลยว่า คนไทยกับไต้หวัน น่าอายเขามั้ยล่ะ

พอมาสังเกตดู ก็เห็นเยอะจริงๆ นะ นักท่องเที่ยวที่ทำอะไรตามใจฉัน ไม่สนใจว่าจะสร้างความเดือนร้อนให้ใคร เมื่อก่อนญี่ปุ่นเข้ายาก ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยว แต่อยู่ดีๆ นักท่องเที่ยวเพิ่มเท่าตัว การจัดการที่คิดว่าดีแล้ว มันก็ยังไม่พร้อม ไม่รู้สินะ คนญี่ปุ่น พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แถมยังขี้เกรงใจด้วย เลยยิ่งแย่ไปกันใหญ่
คนไทยมาเที่ยวก็รักษามารยาทกันบ้างนะคะ มาเที่ยวแป๊บๆ ก็กลับ แต่คนที่มาอยู่เนี่ย อับอายขายขี้หน้าเค้าไปอีกนานเลย เห็นใจกันบ้าง

ขากลับ ตีตั๋วนอนมาตลอดทางเลย ใหม่นอนตั้งแต่สถานีที่สองมั๊ง มาตื่นอีกทีถึงชินากาว่าแล้ว ><
เย็นนี้เราไปทานข้าวเย็นที่ร้านอาหารจีนใต้หวันร้านประจำที่เมกุโร่ ย้อนกลับไปอ่านไดอะรีหน้า silver week ได้ ร้านนั้นแหละ
เจอกันคราวหน้าค่ะ